Eastern State Penitentiary, Philadelphia
เรือนจำเก่าในฟิลาเดลเฟีย สมัยก่อนจัดว่าเป็นอาคารที่ราคาสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา (ปี 1940) ใช้สำหรับขังอาชญากรตัวฉกาจที่ต้องโทษคดีร้ายแรง ด้วยหลักการที่ว่า "นักโทษสมควรอยู่อย่างโดดเดี่ยว เดียวดายอย่างยาวนานที่สุด" จากวิธีนี้เองทำให้นักโทษเกิดความเครียดจนถึงขั้นเสียสติ และเกิดเหตุสยองขวัญมากมายในเรือนจำแห่งนี้ ยังไม่นับรวมวิธีการที่ใช้ทรมานนักโทษที่พยายามหลบหนี หรือไม่เชื่อฟังคำสั่ง ซึ่งล้วนโหดร้ายทารุณเกินกว่าร่างกายคนจะรับไหว

ผู้ที่เข้าไปเยี่ยมชมมักได้ยินเสียงหัวเราะ ร้องไห้ เสียงกระซิบลอดออกมาจากกำแพง และมักรู้สึกเหมือนมีใครแอบเดินตามอยู่ตลอดเวลา เรื่องราวที่โด่งดังที่สุดของที่นี่ คือ ช่างทำกุญแจคนหนึ่งได้รับหน้าที่ให้มาปลดล็อคประตูห้องขังบล็อคที่ 4 ซึ่งถูกปิดไปนานกว่า 140 ปี เขาเล่าว่าวินาทีที่เขากำลังปลดกุญแจออกนั้น คล้ายกับว่ามีพลังรุนแรงบางอย่างแผ่พุ่งออกมาจนเขาไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ชั่วขณะหนึ่งเลย และยังเจอกับใบหน้าเจ็บปวดทรมานของนักโทษอยู่บนกำแพงด้วย แม้ทุกวันนี้ที่นี่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้แล้ว แต่เหตุการณ์ลึกลับ และเรื่องราวอาถรรพ์ของที่นี่ก็ยังคงถูกพบเห็นกันอยู่เรื่อยๆ
Waverly Hills Sanitorium
โรงพยาบาล ที่ที่น่าจะเป็นแหล่งรักษา คลายความทุกข์ให้แก่ผู้เจ็บไข้ กลับกลายเป็นที่สุดสยองจากการรักษาอันเป็นไปตามความเชื่อของแพทย์สมัยนั้น ซึ่งโหดร้ายทารุณเสียจนจำนวนคนไข้ที่เสียชีวิตจากการรักษาใกล้เคียงกับเพราะโรคร้ายเลยทีเดียว
สถานพยาบาล Waverly Hills สร้างขึ้นในต้นศตวรรษที่ 20 สำหรับรักษาผู้ป่วยวัณโรค แต่ภายหลังผู้ป่วยได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็วจนสถานที่คับแคบ จึงได้มีการสร้างอาคารหลังใหม่เพิ่มอีก 5 ชั้น แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ แผนกผู้ป่วยผิวขาว แผนกผู้ป่วยผิวสี และแผนกผู้ป่วยเด็ก
แม้สถานพยาบาล Waverly Hills จะขึ้นชื่อว่าทันสมัยที่สุดในยุคนั้น แต่การรักษาผู้ป่วยวัณโรคยังเป็นเรื่องใหม่อยู่ บ่อยครั้งที่การรักษากลับกลายเป็นบาปบริสุทธิ์ด้วยวิธีอันแสนจะโหดร้าย เช่น การเลาะซี่โครงซึ่งเชื่อว่าโรคแพร่กระจายไปในร่างกายได้น้อยลง และบางครั้งก็ถูกตัดเอาปอดออกไปด้วยโดยใส่ลูกโป่งเข้าไปแทนที่ เพราะเชื่อว่าเป็นการทำให้เชื้อโรคไม่แพร่กระจาย จนยอดผู้เสียชีวิตในสถานพยาบาลแห่งนี้สูงถึง 6,000 กว่าคน โชคดีที่มีการค้นพบยาปฏิชีวนะในปี 1943 ทางสถานพยาบาลจึงเปลี่ยนวิธีรักษา และการแพร่ระบาดของเชื้อวัณโรคลดลงในที่สุด
Alcatraz Prison, California
คุกสุดโหด Alcatraz เคยเป็นทั้งประภาคาร ป้อมปราการของกองทัพ และยังเป็นคุกทหารจนถึงปี 1963 มีนักโทษจำนวนไม่น้อยสังเวยชีวิตจากการพยายามหลบหนีออกจากคุกโหดนี้ มีนักโทษพยายามหลบหนีออกจากเกาะอัลคาทราซทั้งสิ้น 36 คน แต่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จ โดยนักโทษ 23 คน ถูกตามจับกลับมา และโดนทรมานปางตาย อีก 6 รายถูกยิงทิ้งขณะหลบหนี ส่วนที่เหลือแม้จะหนีออกมาจากเกาะได้ แต่ก็มีอันต้องจมน้ำเสียชีวิตในอ่าวซานฟรานซิสโก ยังไม่นับรวมที่เสียชีวิตในคุกอีกมากมาย
ทุกวันนี้แม้จะเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว แต่เรื่องเล่าความหลอนก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวมักได้ยินเสียงประหลาดเสมอๆ เช่น เสียงปิดประตูห้องขังเอง เสียงหวีดร้องจากใต้ดิน เสียงกระจกแตกในห้องอาหาร เสียงตัดเหล็ก รวมถึงความรู้สึกเหมือนถูกใครบางคนจ้องมองอยู่ตลอดเวลา
The Stanley Hotel, Colorado
โรงแรมผีสิงแห่งนี้ เคยถูกใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนต์สยองขวัญเรื่อง "The Shining" ผีที่มีผู้พบเห็นกันมากที่สุดคือผีเด็กที่ห้อง 1211 ชอบออกมาวิ่งเล่นในยามค่ำคืน และผีเจ้าของโรงแรม นายแสตนลีย์ มักปรากฏตัวที่ล็อบบี้ และห้องบิลเลียด พร้อมกับ นางฟลอร่า ผู้เป็นภรรยาที่ออกมานั่งเล่นเปียโนในห้องดนตรี
Lincoln Theater, Illinois
โรงหนังเก่าที่มักมีผู้ชมลึกลับเข้ามาร่วมชมด้วยอยู่เสมอ บางตำแหน่งของโรงหนังที่มีอุณหภูมิเย็นจัดจนน่าประหลาด คู่หนุ่มสาวที่ยังคงวนเวียนอยู่รอบๆ โรงหนัง และเสียงฝีเท้าไม่ทราบสาเหตุจากกลางเวที
ตำนานเล่าว่าโรงหนังแห่งนี้สร้างทับอาคารเดิมที่ถูกไฟไหม้ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้นมากมาย ดวงวิญญาณของผู้ที่อยู่ตรงนั้นยังคงวนเวียนอยู่ทุกที่ คุณจะได้ยินเสียงประหลากที่ดังมาจากขั้นบันไดและระเบียง คอยสังเกตด้วยล่ะ ว่าที่นั่งดูหนังอยู่ข้างๆ คุณน่ะ คนจริงๆ ไหม